สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะแนวกรอบล่างของ 111 เยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ และข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่งของจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 111.12-111.13 เยน เมื่อเทียบกับ 110.77-110.87 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 110.74-110.75 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันศุกร์
ส่วนยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.1231-1.1232 ดอลลาร์ และ 124.80-124.81 เยน เมื่อเทียบกับ 1.1212-1.1222 ดอลลาร์ และ 124.25-124.35 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.1230-1.1232 ดอลลาร์ และ 124.36-124.40 เยนที่ตลาดโตเกียวในช่วงเย็นวันศุกร์
ดีลเลอร์กล่าวว่า นักลงทุนเทขายเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แล้วเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ จากความเชื่อมั่นเรื่องความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ยังกระตุ้นให้นักลงทุนพากันเข้ามาถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ดีลเลอร์ระบุ
ขณะที่โบรกเกอร์รายหนึ่งให้เหตุผลว่า "ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้คลี่คลายลงแล้ว"
มาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นหลังจากที่หดตัวติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน
ส่วนเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 50.5 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 49.2 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และหากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต