ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดรอบ 18 เดือน ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น ขานรับสัญญาณบวกของกระบวนการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3155 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3114 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1240 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1198 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7116 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7063 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9977 ฟรังก์ จากระดับ 0.9984 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3338 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3346 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.46 เยน จากระดับ 111.38 เยน
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 173,000 ตำแหน่ง
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 56.1 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2560 และต่ำกว่าระดับ 59.7 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวของ ISM สอคล้องกับรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 55.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 56.0 ในเดือนก.พ. โดยการปรับตัวลงของดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่
ส่วนเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝายค้านของอังกฤษ เห็นพ้องกันว่าพวกเขาจะจัดการประชุมอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการหารือเมื่อวานนี้เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับ Brexit
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะผลสำรวจของนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%