ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ แนวโน้มที่จีนและสหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า ก็ได้ช่วยหนุนดอลลาร์ด้วย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.09% สู่ระดับ 97.3938
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.70 เยน จากระดับ 111.59 เยน และ แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3388 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3355 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9999 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1220 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3029 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3064 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าแตะที่ระดับ 0.7102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 196,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าระดับ 20,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2560 ก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 33,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับ 3.8% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงระบุในสาส์นถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า มีความคืบหน้าอย่างมากในข้อตกลงด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา
ทางด้านปธน.ทรัมป์ก็กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า โดยคาดว่าจะมีการประกาศการบรรลุข้อตกลงการค้าภายในเวลา 4 สัปดาห์ พร้อมทั้งระบุว่า เขาจะจัดการประชุมสุดยอดร่วมกับปธน.สี จิ้นผิง หากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า