ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1270 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1266 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3082 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3042 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7125 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.97 เยน จากระดับ 111.11 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0025 ฟรังก์ จากระดับ 0.9995 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3323 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3322 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 มี.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดยังคง "ใช้ความอดทน" ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป นอกจากนี้ กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2562
รายงานการประชุมเฟดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐระบุว่า เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การเงินทั่วโลก รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงนั้น กรรมการเฟดจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า คณะกรรมการ FOMC ควรใช้ความอดทนในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในอนาคต ซึ่งถือเป็นแนวทางอันเหมาะสมที่จะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์ต่างๆที่คณะกรรมการต้องการ
ส่วนเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.8%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค.,ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน