ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.92 เยน จากระดับ 111.09 เยน แต่แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0175 ฟรังก์ จากระดับ 1.0174 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3437 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3427 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1203 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1194 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3098 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3164 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6999 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7014 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ จากเดิมที่ระดับ 10% เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ มีความคืบหน้า "ช้าเกินไป" พร้อมระบุว่า จะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้านี้
ทางด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ยืนยันว่า สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เวลา 12.01 น.ตามเวลาสหรัฐ
นายไลท์ไฮเซอร์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า คาดว่านายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนจะเดินทางมายังกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาการค้ากับสหรัฐในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ดุลการค้าเดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.