ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% สู่ระดับ 97.3334
ดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.90 เยน จากระดับ 109.69 เยน แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0125 ฟรังก์ จากระดับ 1.0147 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3421 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3474 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1231 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1224 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.3007 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3023 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6997 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6994 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค.
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน CPI พื้นฐานขยับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับเดือนก.พ.และมี.ค. และ เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนมี.ค.
นักลงทุนบางรายคิดว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจลดลงต่อไปในปีนี้ และคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เฟดไม่วิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนแอหลังการประชุมนโยบาย 2 วันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เฟดไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางที่อดทนต่อการปรับอัตราดอกเบี้ย