ดอลลาร์ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หลุดระดับ 109 เยน ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า
ณ เวลา 19.26 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.78% สู่ระดับ 108.74 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.57% สู่ระดับ 121.28 เยน และปรับตัวขึ้น 0.20% สู่ระดับ 1.1152 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.15% สู่ระดับ 97.99
ปธน.ทรัมป์สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงินด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกที่ข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐ
"ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกทุกประเภท ในอัตรา 5% จนกว่าการหลั่งไหลของผู้อพยพจากเม็กซิโกที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ จะสิ้นสุดลง" ปธน.ทรัมป์ระบุ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เตือนว่า สหรัฐจะเพิ่มภาษีนำเข้าขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกจะได้รับการแก้ไข
การดำเนินการของปธน.ทรัมป์ สวนทางกับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งกล่าวว่า เขากำลังผลักดันสภาคองเกรสให้สัตยาบันต่อข้อตกลงการค้าสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ในช่วงฤดูร้อนนี้ หลังจากที่ทั้งแคนาดาและเม็กซิโกต่างก็ส่งสัญญาณว่าทั้งสองประเทศพร้อมที่จะเริ่มกระบวนการให้การอนุมัติต่อข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ ข้อตกลง USMCA จะเข้ามาแทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)