ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.58% สู่ระดับ 97.5702
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.56 เยน จากระดับ 108.32 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9990 ฟรังก์ จากระดับ 0.9933 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3416 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3325 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1208 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1279 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2584 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2682 ดอลลาร์ และ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6866 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6916 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. ซึ่งช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.เป็นเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดิมที่ระดับ 0.2%
การดีดตัวขึ้นของยอดค้าปลีกในเดือนพ.ค.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์ และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และ อาหาร เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.