ดอลลาร์ชะลอตัวลงจากที่ดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ โดยนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ขณะที่ไม่มั่นใจต่อการเจรจาการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันเสาร์นี้ นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น
ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 107.85 เยน หลังจากพุ่งขึ้นทะลุ 108 เยนในช่วงแรก ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.06% สู่ระดับ 122.58 เยน และอ่อนค่า 0.04% สู่ระดับ 1.1363 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.01% สู่ระดับ 96.22
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีกำหนดพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันเสาร์นี้เวลา 11.30 น.ตามเวลาญี่ปุ่น หรือ 09.30 น.ตามเวลาไทย
การประชุมทวิภาคีระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำจีนในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในการประชุมสุดยอด G20 เนื่องจากจะเป็นการชี้ชะตาว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะสิ้นสุดลง หรือจะยังคงยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน และเศรษฐกิจโลกต่อไป
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่จีนระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเตรียมเสนอเงื่อนไขในการยุติสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐให้แก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างที่ผู้นำทั้งสองพบปะกันในวันเสาร์นี้
ในบรรดาเงื่อนไขที่จีนเรียกร้องต่อทางสหรัฐ ได้แก่ การให้สหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามการขายเทคโนโลยีของสหรัฐให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ รวมทั้งสหรัฐจะต้องยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนทั้งหมด และยกเลิกความพยายามที่จะให้จีนซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น
นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ยังคงย้ำให้สหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ขณะที่จีนยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในประเด็นการค้ากับสหรัฐ
"เราขอเรียกร้องให้สหรัฐยุติการใช้มาตรการกดดันและคว่ำบาตรต่อบริษัทหัวเว่ย และบริษัทอื่นๆของจีน โดยให้ผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน" นายเกากล่าว
นอกจากนี้ นายเการะบุว่า จีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ ตามที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี และผู้นำการเจรจาการค้าของจีนได้วางแนวทางไว้ในเดือนพ.ค.
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%
ปธน.ทรัมป์ยังขู่ว่า หากเขาและปธน.สี จิ้นผิงยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าช่วงสุดสัปดาห์นี้นอกรอบการประชุม G20 สหรัฐก็จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนอีก 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้ว