ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริววรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธตามเวลาสหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.87 เยน จากระดับ 108.72 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3126 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3096 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9935 ฟรังก์ จากระดับ 0.9939 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1207 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1211 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2466 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2512 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6927 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6971 ดอลลาร์สหรัฐ
นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 10 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ และแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ดี นักลงทุนในตลาดการเงินยังคงคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ในการสำรวจล่าสุด พบว่า FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% จากปัจจุบันที่ระดับ 2.25-2.50% และมีโอกาส 7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 49,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.3 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราการเปิดรับสมัครงานลดลงสู่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.7% ในเดือนเม.ย.
ทางด้านสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมลดลง 1.7 จุด สู่ระดับ 103.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 104.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ผู้ประกอบการลดแผนการจ้างงาน และการใช้จ่ายเงินทุน รวมทั้งลดคาดการณ์ยอดขายในอนาคต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 18-19 มิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.