ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าใกล้หลุดระดับ 108 เยนในวันนี้ ท่ามกลางแรงขายก่อนช่วงวันหยุดยาวในญี่ปุ่น ท่ามกลางแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ณ เวลา 20.27 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.30% สู่ระดับ 108.16 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.40% สู่ระดับ 121.58 เยน และอ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 1.1242 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.01% สู่ระดับ 97.04
ดอลลาร์ดีดตัวสู่ช่วงกลางของกรอบ 108 เยนในช่วงแรก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา โดยเขายังคงส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ เช่นเดียวกับที่ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยลบหลายประการ เช่น ความตึงเครียดทางการค้า และความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก กำลังถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า การลงทุนของภาคธุรกิจในสหรัฐได้ชะลอตัวลงในระยะนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ระดับ 2%
นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์มากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. หลังจากที่นายพาวเวลส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ทั้งนี้ ในการสำรวจล่าสุด พบว่า FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 77.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% จากปัจจุบันที่ระดับ 2.25-2.50% และมีโอกาส 22.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% และมีโอกาสเพียง 7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%
หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค. ตามการคาดการณ์ ก็จะถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของเฟดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยเฟดไม่เคยดำเนินการดังกล่าวนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2551