ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณเตือนถึงผลกระทบของการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.35 เยน จากระดับ 108.77 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9901 ฟรังก์ จากระดับ 0.9934 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3234 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3197 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2146 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2162 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1081 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1085 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6804 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6839 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนก.ค. จากระดับ 51.7 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 จากระดับ 50.6 ในเดือนมิ.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐดิ่งลง 1.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่า สถานการณ์ Brexit ที่ไม่มีการทำข้อตกลง จะนำไปสู่การอ่อนค่าของปอนด์ และภาวะผันผวนในตลาดการเงิน ซึ่งแม้ภาคธุรกิจสามารถเตรียมรับมือกรณี Brexit ที่ไม่มีการทำข้อตกลง แต่การเตรียมพร้อมดังกล่าวก็ไม่สามารถขจัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการที่อังกฤษต้องทำความสัมพันธ์ทางการค้าครั้งใหม่กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะไม่ราบรื่นที่จะเกิดจาก Brexit ที่ไม่มีการทำข้อตกลง
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน