ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลการค้าของจีนและเงินหยวนที่เริ่มมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9751 ฟรังก์ จากระดับ 0.9736 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.97 เยน จากระดับ 106.09 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3239 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3314 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1186 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1214 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2133 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2143 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6805 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6767 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและฟรังก์สวิส หลังจากสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดนำเข้าเดือนก.ค.ปรับตัวลง 5.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 9.0% ขณะที่ยอดส่งออกเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้น 3.3% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.0%
นอกจากนี้ การที่จีนกำหนดอัตราค่ากลางเงินหยวนเมื่อวานนี้ที่ระดับ 7.0039 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้นั้น ยังช่วยให้นักลงทุนคลายจากความกังวลที่ว่า จีนอาจใช้ค่าเงินหยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพก็ตาม โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวสู่ระดับ 1.753% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2559 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 215,000 ราย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งทรงตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากรายงานเบื้องต้นในเดือนที่แล้วว่าเพิ่มขึ้น 0.2%
ส่วนในวันนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย