ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ค.
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.27 เยน จากระดับ 105.57 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9689 ฟรังก์ จากระดับ 0.9722 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3244 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3208 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1219 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1207 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2077 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2055 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6753 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6791 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ และกระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า จีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน ด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเพื่อหวังข้อได้เปรียบด้านการค้า โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนได้กำหนดอัตราค่ากลางของหยวนที่ระดับ 7.0211 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงจากระดับของวันศุกร์
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐประจำไตรมาส 4 สู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ระดับ 2.0% โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มากกว่าคาด
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนส.ค. จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนส.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.