ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น ยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.12 เยน จากระดับ 105.89 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9769 ฟรังก์ จากระดับ 0.9735 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3323 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3322 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1106 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1135 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2110 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2058 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6775 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6745 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลังจากหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพุ่งขึ้น 0.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายเสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐชะลอตัวสู่ระดับ 2.3% ในไตรมาส 2 หลังจากแตะระดับ 3.5% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบรายไตรมาส
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ที่อังกฤษเตรียมแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษได้ยืนยันที่จะจัดการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน และจะหาทางจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวได้ภายใต้การนำของนายเจเรมี คอร์บิน เพื่อที่จะเลื่อนเวลา Brexit