ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อันเนื่องมาจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งระบุว่า สหรัฐและจีนจะกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้ง
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.19 เยน จากระดับ 105.29 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9796 ฟรังก์ จากระดับ 0.9742 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3262 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3293 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1097 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1145 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2284 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6774 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6752 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวที่ฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะเริ่มเจรจาการค้ากับจีนอย่างจริงจัง พร้อมกับระบุด้วยว่า จีนได้ติดต่อทางโทรศัพท์มายังสหรัฐและเสนอให้กลับมาเจรจาร่วมกัน
ปธน.ทรัมป์ยังได้กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และขานรับในความปรารถนาของผู้นำจีนที่ต้องการทำข้อตกลงและความสงบ นอกจากนี้ ปธน.สหรัฐยังเห็นพ้องกับแสดงความเห็นทางการค้าของนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนซึ่งระบุว่า จีนพร้อมที่จะแก้ไขข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ ผ่านทางการเจรจาอย่างสงบ และจีนไม่ต้องการเพิ่มความขัดแย้งทางการค้า
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ทรงตัวในเดือนมิ.ย. โดยดัชนี CFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 85 รายการ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน