ดอลลาร์และสกุลเงินหลักแทบไม่เคลื่อนไหวในวันนี้ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 22.25 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.04% สู่ระดับ 107.27 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.04% สู่ระดับ 118.50 เยน และทรงตัวที่ระดับ 1.1046 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.02% สู่ระดับ 98.30
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 12 ก.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และประกาศรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เช่นกันในการประชุมรอบที่แล้วในวันที่ 30-31 ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและจีนมีความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับการบังคับใช้กลไกในการป้องกันการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา หลังจากที่ผ่านมา ประเด็นดังกล่าวได้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ Politico ซึ่งเป็นสื่อสหรัฐ รายงานว่า จีนได้ยื่นข้อเสนอที่จะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น หากสหรัฐยอมผ่อนคลายข้อจำกัดต่อการส่งออกสินค้าของบริษัทหัวเว่ย และเลื่อนการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ต.ค.
ทั้งนี้ จีนยื่นข้อเสนอดังกล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาเลื่อนการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ