ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า อังกฤษจะสามารถแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยมีการทำข้อตกลง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.06% สู่ระดับ 98.2532
เงินปอนด์แข็งขึ้นสู่ระดับ 1.2479 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2345 ดอลลาร์ และ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6881 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6866 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1069 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1073 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.13 เยน จากระดับ 108.15 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9910 ฟรังก์ จากระดับ 0.9905 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3211 ดอลลาร์แคนาดา
ตลาดคลายวิตกเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจาสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะเดินทางไปยังลักเซมเบิร์กเพื่อหารือกับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เกี่ยวกับประเด็น Brexit ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ EU ในวันที่ 17-18 ต.ค.
ด้านโฆษกของรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าวเป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลอังกฤษที่จะทำข้อตกลง Brexit ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ต.ค.นี้