ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเยน,ฟรังก์ รับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส,ตลาดจับตาผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 18, 2019 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนีที่ดีดตัวเกินคาดในเดือนก.ย.

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1066 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1006 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2502 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2424 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6860 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6868 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.20 เยน จากระดับ 108.05 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9936 ฟรังก์ จากระดับ 0.9923 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3251 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3240 ดอลลาร์แคนาดา

สกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -22.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ -44.1 ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -37.0

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน และจากการคาดการณ์ที่ว่า อังกฤษจะสามารถแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยมีการทำข้อตกลง

ส่วนดอลลาร์แข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% โดยการปรับตัวขึ้นของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้รับแรงหนุนจากการผลิตเครื่องจักร และโลหะ

นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวแถลงการณ์หลังการประชุมในครั้งนี้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มเกือบ 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เช่นกันในการประชุมรอบที่แล้วในวันที่ 30-31 ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551

อย่างไรก็ดี ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสเหลือเพียง 65.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. ขณะที่มีโอกาส 34.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.00-2.25%

นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2562, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ