ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก รับความหวังเจรจาการค้า,ข้อมูลศก.สดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 26, 2019 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) ขานรับรายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. รวมทั้งความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.79 เยน จากระดับ 107.04 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9922 ฟรังก์ จากระดับ 0.9855 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3256 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3236 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0943 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1017 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2349 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2495 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6754 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6799 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า "จีนจะไม่มีทางตามเราทัน ถ้าเรามีผู้นำที่ฉลาด เรามีรายได้เข้ามาหลายล้านล้านดอลลาร์ และพวกเขาสูญเสียหลายล้านล้านดอลลาร์ ทำให้พวกเขาต้องการทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดไว้"

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 713,000 ยูนิต และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 660,000 ยูนิต โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำยูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ