ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบเยนในวันนี้ จากการที่นักลงทุนมีความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีข่าวว่า จีนพร้อมทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ
ณ เวลา 23.36 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.37% สู่ระดับ 107.47 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.54% สู่ระดับ 117.91 เยน และดีดตัวขึ้น 0.16% สู่ระดับ 1.0972 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.01% สู่ระดับ 99.12
สหรัฐและจีนจะเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐนำโดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)
สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้างตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ โดยนายหลิว เหอ กล่าวว่า ข้อเสนอของเขาต่อทางสหรัฐจะไม่รวมถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลจีนในการปฏิรูปนโยบายอุตสาหกรรม หรือการให้เงินอุดหนุนของภาครัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จีนรายหนึ่งกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้า ตราบใดที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เพิ่มการจัดเก็บภาษีต่อจีน ซึ่งรวมถึงแผนการเพิ่มอัตราภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในเดือนนี้ และเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ บลูมเบิร์กยังรายงานว่า จีนจะเสนอซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐเป็นการตอบแทน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 17-18 ก.ย.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของเฟดในปลายเดือนนี้
ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. แม้อัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขดัชนี PPI ที่ชะลอตัวในเดือนก.ย. ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้