เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากสภาล่างของอังกฤษไฟเขียวข้อตกลง Brexit แต่โหวตคว่ำตารางเวลาในการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Brexit
เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2882 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2966 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1123 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1146 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6853 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6864 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.46 เยน จากระดับ 108.59 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9890 ฟรังก์ จากระดับ 0.9855 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3097 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3084 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์ได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า สมาชิกสภาสามัญชน หรือสภาล่างของอังกฤษ ลงมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป หรือ Withdrawal Agreement Bill ของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แต่ในการลงมติต่อตารางเวลาในการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Brexit ซึ่งรัฐบาลให้เวลาเพียง 3 วันนั้น สภาล่างมีมติไม่เห็นชอบต่อตารางเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ สภาล่างลงคะแนนเสียง 329 เสียงเห็นชอบต่อร่างกฎหมาย Withdrawal Agreement Bill ขณะที่ 299 เสียงไม่เห็นชอบ แต่ในการลงมติต่อตารางเวลาในการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Brexit นั้น สภาล่างลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเพียง 308 เสียง ขณะที่ 322 เสียงไม่เห็นชอบ
ผลการลงมติที่ออกมาเช่นนี้ บ่งชี้ว่า อังกฤษจะไม่สามารถแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ตามกำหนดเดิมภายในวันที่ 31 ต.ค. ส่งผลให้ EU จะต้องให้การอนุมัติขยายเส้นตาย Brexit ออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้อังกฤษแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
นอกจากนี้ นายจอห์นสันอาจประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ตามคำขู่ของเขาก่อนหน้านี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.2% สู่ระดับ 5.38 ล้านยูนิตในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านจะลดลงสู่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน