เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากมีรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด
เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2863 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2904 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1107 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1127 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6821 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6851 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.61 เยน จากระดับ 108.65 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3071 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3077 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ดี ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9920 ฟรังก์ จากระดับ 0.9905 ฟรังก์
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของ Brexit หลังจากนายจอห์นสันกล่าวว่า เขาจะให้เวลามากขึ้นแก่สมาชิกรัฐสภาในการพิจารณาข้อตกลง Brexit จากเดิมที่รัฐบาลให้เวลาเพียง 3 วัน แต่รัฐสภาจะต้องให้การอนุมัติต่อญัตติของรัฐบาลในการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 12 ธ.ค. โดยนายจอห์นสันกล่าวว่า หากสภาให้การอนุมัติต่อญัตติดังกล่าว เขาก็จะประกาศยุบสภาในวันที่ 6 พ.ย.
สื่อรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมดำเนินการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด โดยจะยื่นญัตติในรัฐสภาเพื่อให้มีการอภิปรายในสัปดาห์หน้า โดยรัฐบาลไม่สามารถประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ หากไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับย้ำว่าจะรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยไปแล้วเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 1.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังรายงานด้วยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐลดลง 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 701,000 ยูนิต สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย