ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.20% สู่ระดับ 97.8311 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.68 เยน จากระดับ 108.61 เยน และ ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9941 ฟรังก์ จากระดับ 0.9920 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3061 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3071 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1080 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1107 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2829 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2863 ดอลลาร์ และ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6820 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6821 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เงินปอนด์ของอังกฤษเผชิญแรงกดดัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อพยายามที่จะคลี่คลายภาวะชะงักงันทางการเมืองเกี่ยวกับ Brexit
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษปฏิเสธแผนการของนายจอห์สันที่จะผลักดันกฎหมาย Brexit ภายใน 3 วันก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ต.ค.นี้
ด้านสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องกันในวันศุกร์ที่จะขยายกำหนดเส้นตาย Brexit จากกำหนดเดิมในวันที่ 31 ต.ค. อย่างไรก็ดี EU ยังไม่ได้ระบุเส้นตาย Brexit ใหม่ให้แก่อังกฤษแต่อย่างใด