ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความหวังที่ว่าสหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรก นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนต.ค.
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.22 เยน จากระดับ 108.63 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9933 ฟรังก์ จากระดับ 0.9880 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3158 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3150 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1063 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1127 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2880 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2879 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6890 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6880 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้ปัจจัยหนุนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณคืบหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกกำลังดำเนินไปด้วยดี และเขาหวังที่จะลงนามข้อตกลงดังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสหรัฐ ซึ่งอาจจะเป็นที่รัฐไอโอวา ขณะที่สื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า จีนกำลังเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางส่วน เพื่อปูทางไปสู่การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวแตะระดับ 54.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีภาคบริการขยายตัวเป็นเดือนที่ 117 เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 5.25 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.22 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 จากระดับ 50.9 ในเดือนก.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย.