ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเงินเยนและฟรังก์สวิส ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.93 เยน จากระดับ 109.22 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9924 ฟรังก์ จากระดับ 0.9933 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3183 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3158 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1068 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1063 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2852 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2880 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6878 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6890 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งว่า การพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพื่อลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรก อาจมีการเลื่อนออกไปเป็นเดือนธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดในเดือนนี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงต้องเจรจาการค้ากันต่อไป รวมทั้งหารือกันเกี่ยวกับการหาสถานที่ในการลงนามข้อตกลง
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐยังส่งผลกระทบต่อดอลลาร์เช่นกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 0.3% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี หลังจากแตะระดับ 2.5% ในไตรมาส 2
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานจะมีการขยายตัว 0.9% ในไตรมาส 3
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย.