ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่ยูโรดีดตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีการขยายตัวในไตรมาส 3
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1022 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0999 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2876 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2837 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6784 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6830 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.39 เยน จากระดับ 108.77 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9880 ฟรังก์ จากระดับ 0.9893 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3256 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3254 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 1,750 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน มีการขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่มีการเติบโต 0.2% ในไตรมาส 2 เช่นกัน
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของเยอรมนีมีการขยายตัว 0.1% ในไตรมาส 3 หลังจากหดตัว 0.2% ในไตรมาส 2 ส่งผลให้เศรษฐกิจเยอรมนียังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนเศรษฐกิจของฝรั่งเศสมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 ขณะที่อิตาลีขยายตัว 0.1% ส่วนเศรษฐกิจสเปนและเนเธอร์แลนด์ต่างขยายตัว 0.4%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย. จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย.