ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยยาวจนถึงสิ้นปีหน้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.49 เยน จากระดับ 108.73 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9816 ฟรังก์ จากระดับ 0.9834 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3164 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3230 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1138 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1095 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3208 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3204 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6888 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6813 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมเฟดครั้งล่าสุดยังได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2563 ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า "ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่น่าพอใจ แม้เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงอยู่ก็ตาม สำหรับการดำเนินนโยบายของเราตลอดปีที่ผ่านมานั้น เราเชื่อว่า นโยบายการเงินของเฟดเป็นผลดีต่อชาวอเมริกัน ส่วนการดำเนินนโยบายในปัจจุบันนั้น คาดว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ตราบเท่าที่เศรษฐกิจยังคงดำเนินไปด้วยดี"
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังส่งสัญญาณว่า เขาต้องการรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและสามารถเคลื่อนตัวอยู่เหนือระดับเป้าหมายของเฟด ก่อนที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 3.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.