ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์และเข้าซื้อสกุลเงินอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงแต่ให้ผลตอบแทนมากกว่า หลังจากที่ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่มีความอ่อนไหวด้านการค้า อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.10% สู่ระดับ 97.5403
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1101 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1090 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.3006 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2960 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6944 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6918 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3107 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3156 ดอลลาร์แคนาดา
แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.64 เยน จากระดับ 109.28 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9806 ฟรังก์ จากระดับ 0.9801 ฟรังก์
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ ขณะที่ขายเยนและฟรังก์สวิสซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย หลังจากมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจากที่นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า จีนได้ติดต่อประสานงานกับสหรัฐอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือเป็นการยืนยันถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า พิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างเขากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 21 ธ.ค. โดยลดลงน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงแตะ 220,000 ราย