ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อดอลลาร์ หลังคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.35% สู่ระดับ 97.0047
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.52 เยน จากระดับ 108.44 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9708 ฟรังก์ จากระดับ 0.9687 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3003 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2965 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1145 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1190 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3120 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3163 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6869 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6933 ดอลลาร์สหรัฐ
สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้นก่อนหน้านี้ หลังจากที่สหรัฐได้สังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่านในการโจมตีทางอากาศที่กรุงแบกแดดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์ร่วงลงทันที เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย อาทิ เยนและฟรังก์สวิส
นักลงทุนกลับเข้าซื้อคืนดอลลาร์ หลังคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าว
นอกจากนี้ กาเรปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่สูงกว่าคาดก็ได้ช่วยหนุนดอลลาร์ด้วย โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.0 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 53.9 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.3