ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกที่ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.13 เยน จากระดับ 109.92 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9647 ฟรังก์ จากระดับ 0.9638 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3047 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3042 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1135 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1150 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะที่ระดับ 1.3066 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3024 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6894 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6903 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 17.0 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.8 จากระดับ 2.4 ในเดือนธ.ค.
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนธ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 216,000 ราย
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน