สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนา หลังจากธนาคารกลางออกมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.49 เยน จากระดับ 108.68 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9696 ฟรังก์ จากระดับ 0.9660 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3283 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3295 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1042 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1063 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3037 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2997 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6736 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6688 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 4 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงินผ่านทางข้อตกลง reverse repo เมื่อวานนี้ นอกเหนือจากที่ได้อัดฉีด 1.2 ล้านล้านหยวนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมสภาพคล่องในระบบให้เพียงพอในช่วงเวลาที่จีนกำลังเร่งป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.8% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2561 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% หลังจากร่วงลง 1.2% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.