ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งสัญญารุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า ชาวอเมริกันอาจเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงถึง 100,000-240,000 ราย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9670 ฟรังก์ จากระดับ 0.9636 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4219 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4090 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 107.22 เยน จากระดับ 107.68 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0929 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1016 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2372 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2434 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6071 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6144 ดอลลาร์
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกโรงเตือนชาวสหรัฐให้เตรียมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า สถานการณ์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้จะรุนแรงและเจ็บปวดมาก ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทางด้านทำเนียบขาวออกรายงานคาดการณ์ในวันเดียวกันว่า ชาวอเมริกันอาจเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงถึง 100,000-240,000 ราย แม้ว่ารัฐต่างๆในสหรัฐได้ประกาศมาตรการให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมแล้วก็ตาม
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 27,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 125,000 ตำแหน่ง และถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.1 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.พ., ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)