ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่นสกุลเงินยูโร หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า รัฐบาลของหลายประเทศอาจจะกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส-19 เริ่มอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.16 เยน จากระดับ 107.52 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9602 ฟรังก์ จากระดับ 0.9662 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3909 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3875 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0979 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0922 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2627 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2529 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6434 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6399 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคึกคัก หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วรัฐนิวยอร์กลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชะลอตัวลงหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ ทางด้านนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์อาจจะประกาศให้มีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วง 1-2 วันข้างหน้านี้ หลังจากวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขเริ่มผ่อนคลายลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลง 2.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนก.พ. ขณะที่ดัชนีราคาส่งออกดิ่งลง 1.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนก.พ.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนเม.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนเม.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค., ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board