ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้นทะลุระดับ 100 แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และมีสภาพคล่องมากที่สุด หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งกว่า 5 ล้านราย
ณ เวลา 22.44 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.19% สู่ระดับ 107.67 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.44% สู่ระดับ 116.70 เยน และร่วงลง 0.63% สู่ระดับ 1.0840 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์บวก 0.66% สู่ระดับ 100.11
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.245 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5 ล้านราย
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการรายงานในวันนี้ ต่ำกว่าในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.615 ล้านราย
ทั้งนี้ เมื่อรวมตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันนี้รวมกับ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 22 ล้านราย
การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะทำการประกาศในวันนี้เกี่ยวกับแนวทางการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ
"เราจะเปิดเศรษฐกิจในบางรัฐเร็วกว่ารัฐอื่น โดยเราคิดว่าบางรัฐสามารถเปิดเศรษฐกิจก่อนเส้นตายวันที่ 1 พ.ค." ปธน.ทรัมป์กล่าว
ถ้อยแถลงของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากผู้ว่าการของ 6 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ได้ประกาศว่าจะจัดตั้งคณะทำงานของตนเอง เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีแผนร่วมกันในการเปิดเศรษฐกิจบางส่วน
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยังคงยืนยันว่า เขาเป็นผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวในการสั่งยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านทั่วทุกรัฐ