ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงสิ้นเดือน โดยขายดอลลาร์และเข้าซื้อสกุลเงินอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.55% สู่ระดับ 99.0248 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส แตะที่ระดับ 0.9655 ฟรังก์ จากระดับ 0.9755 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.20 เยน จากระดับ 106.59 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3922 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3898 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0951 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0870 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2599 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2450 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6523 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6540 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ยังคงเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มความพยายามมากขึ้นที่จะบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 และความหวังที่ว่าจะมีการเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่ได้ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง และลดความต้องการดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ 0% ต่อไป และยืนยันที่จะยังคงดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
เฟดให้คำมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อให้มีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงต่อไป หากนักลงทุนยังคงเพิ่มความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ชะลอตัวลง