ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากรัฐบาลของประเทศต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.74% สู่ระดับ 99.66 เมื่อคืนนี้
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0913 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0813 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2194 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2118 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6515 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6417 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3961 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4108 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.40 เยน จากระดับ 107.30 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9727 ฟรังก์ จากระดับ 0.9722 ฟรังก์
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร หลังจากมีรายงานว่าประเทศต่างๆเริ่มทยอยเปิดเศรษฐกิจ หลังจากที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ฝรั่งเศสและเยอรมนีเห็นพ้องกันในการเสนอตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 5 แสนล้านยูโร เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศในยุโรปซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านบวก 7 จุด สู่ระดับ 37 ในเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board