ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.27% สู่ระดับ 96.9360
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.60 เยน จากระดับ 109.12 เยน และดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9621 ฟรังก์ จากระดับ 0.9550 ฟรังก์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3432 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3505 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1294 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1347 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2670 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2612 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.6967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6937 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าการจ้างงานอาจลดลง 8.33 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 13.3% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.5%
การพุ่งขึ้นของตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ค. ถือเป็นสถิติการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐรอบ 81 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2482
ตัวเลขจ้างงานที่ดีกว่าคาดในเดือนพ.ค.นั้นได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ และทำการจ้างงานครั้งใหม่ หลังจากที่มีการปลดพนักงานจำนวนมากในช่วงที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19