ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และมีสภาพคล่องสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.77% แตะที่ระดับ 96.7262 เมื่อคืนนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1301 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1389 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2595 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2765 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6847 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7017 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3605 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3383 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.80 เยน จากระดับ 107.11 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9431 ฟรังก์ จากระดับ 0.9437 ฟรังก์
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจาก Worldometer และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุหลัก 2 ล้านรายแล้ว
ทางด้านนายอาชิช์ จาห์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพโลกแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คาดการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐ อาจพุ่งขึ้นแตะ 200,000 รายในเดือนก.ย.นี้ หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวด ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งทะลุหลัก 2 ล้านรายแล้วในขณะนี้ หลังจากที่รัฐบาลของรัฐต่างๆผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุมการแพร่ระบาด
เงินปอนด์ร่วงลงเทียบดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าผู้แทนการเจรจาฝ่าย EU ว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) กล่าวว่า อังกฤษเรียกร้องมากเกินไปในการเจรจาข้อตกลงการค้ากับ EU พร้อมกับกล่าวว่า อังกฤษกำลังต้องการทำข้อตกลงการค้ากับ EU โดยหวังได้รับสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกับการเป็นสมาชิก EU แต่ไม่ต้องการมีภาระผูกพัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.54 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6 ล้านราย
ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลงติดต่อกัน 3 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุปสงค์ในตลาด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน