ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่มีความเสี่ยงแต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้น จากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.45% สู่ระดับ 96.4337 เมื่อคืนนี้
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1335 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1285 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2621 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2556 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6980 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6958 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.20 เยน จากระดับ 107.51 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9379 ฟรังก์ จากระดับ 0.9420 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3500 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3593 ดอลลาร์แคนาดา
การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำเงินสดมาพักเอาไว้ที่ดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั้งในสหรัฐและทั่วโลก โดยข้อมูลจาก Worldometer ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 12 ล้านราย โดยอยู่ที่ 12,000,792 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 547,808 ราย
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐและประเทศยุโรปในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ เยอรมนีเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันพรุ่งนี้ ฝรั่งเศสเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.