ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรอ่อนเทียบดอลล์ หลัง ECB คงดอกเบี้ย,วงเงินซื้อพันธบัตร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 17, 2020 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินซื้อพันธบัตรในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.27% สู่ระดับ 96.3457 เมื่อคืนนี้

ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1378 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1405 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2546 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2580 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6998 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.37 เยน จากระดับ 106.95 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3573 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3508 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.9448 ฟรังก์ จากระดับ 0.9455 ฟรังก์

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมิ.ย.2564

ส่วนดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.3 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 16 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดเศรษฐกิจก็ตาม

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0%

ทางด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 14 จุด สู่ระดับ 72 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนมี.ค. ก่อนที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการประชุมของผู้นำ 27 ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อลงมติจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรในการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนให้ฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการณ์โควิด-19


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ