ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการเจรจาของบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยในปัจจุบัน
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.42% สู่ระดับ 95.9450 เมื่อคืนนี้
ยูโรทะยานขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมสุดยอด EU ในวันศุกร์และเสาร์นี้ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.95 เยน จากระดับ 107.37 เยน และอ่อนค่าแตะที่ระดับ 0.9382 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9448 ฟรังก์สวิส แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.3576 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3573 ดอลลาร์
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1436 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1378 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2565 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2546 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7000 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6967 ดอลลาร์สหรัฐ
ยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยขานรับการประชุมสุดยอด EU ในวันศุกร์และเสาร์นี้ เพื่อจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์)
ผู้นำ 27 ชาติของ EU ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เพื่อจัดการประชุมสุดยอดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อช่วยเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี หลังการเจรจานานกว่า 7 ชั่วโมงในวันศุกร์ ที่ประชุมยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณประจำปี 2564-2570 ของ EU รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูดังกล่าว
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร โดยประกอบด้วยเงินให้เปล่าจำนวน 5 แสนล้านยูโร และเงินกู้ 2.5 แสนล้านยูโรสำหรับชาติสมาชิก EU ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวในวันศุกร์ว่า ที่ประชุมยังคงมีความขัดแย้งกันอย่างมากเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟู และคาดว่าการเจรจาจะเป็นไปอย่างยากลำบาก
คาดว่าการประชุมจะยืดเยื้อออกไปจนถึงวันเสาร์ และอาจต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์นี้เนื่องจากสมาชิก EU ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขในการรับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว รวมถึงการจัดสรรเงินช่วยเหลือ และการกำกับดูแลการใช้เงิน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการอนุมัติกองทุนดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจจะต้องได้รับฉันทามติจากสมาชิกทั้ง 27 ชาติของ EU ซึ่งแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของ EU ที่ต้องการเพียงแค่คะแนนเสียงส่วนใหญ่จากสมาชิก 27 ชาติเท่านั้น