ยูโรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเทียบดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่สหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ณ เวลา 22.39 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.38% สู่ระดับ 106.83 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.02% สู่ระดับ 122.76 เยน และดีดตัวขึ้น 0.41% สู่ระดับ 1.1490 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.51% สู่ระดับ 95.35
ทั้งนี้ ผู้นำ 27 ชาติของ EU ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยวงเงินดังกล่าวประกอบด้วยเงินให้เปล่าจำนวน 3.90 แสนล้านยูโร และเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำจำนวน 3.60 แสนล้านยูโร
นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวแสดงความยินดีต่อรายงานที่ว่า วัคซีนที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท AstraZeneca ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองในมนุษย์
นอกจากนี้ The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ผลการทดลองวัคซีน Ad5 ในเฟส 2 ในมนุษย์ที่มีการดำเนินการในจีน พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสโควิด-19