ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ยังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นวานนี้จากการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 18.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์บวก 0.10% สู่ระดับ 92.98 หลังจากทะยานแตะระดับ 93.159 เมื่อวานนี้ หลังจากที่เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค. โดยแสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์พุ่งขึ้น 1% หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเมื่อวันอังคาร และทำให้ดอลลาร์ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ทั้งนี้ นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ เนื่องจากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แม้มีความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนที่คาดหวังว่าเฟดจะใช้มาตรการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย โดยจะผลักดันเงินเฟ้อให้สูงกว่าระดับ 2% หรือเฟดอาจใช้มาตรการควบคุมเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
"เทรดเดอร์หวังว่ารายงานการประชุมจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. แต่เฟดไม่มีฉันทามติในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนจำนวนมากคาดหวัง" นายคริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเปปเปอร์สโตน กล่าว
ขณะนี้ นักลงทุนกำลังให้ความสนใจต่อการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮลในวันที่ 27-28 ส.ค. รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 15-16 ก.ย.
ทั้งนี้ เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้เตรียมจัดการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล โดยจะปรับรูปแบบเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในหัวข้อ "Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy"
เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ระบุว่า การประชุมดังกล่าวจะยังคงมีการเชิญผู้ว่าการธนาคารกลาง และนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลกเข้าร่วมการเสวนา และจะมีการถ่ายทอดสดแก่สาธารณชน
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับรูปแบบการประชุมที่เมืองแจ็คสัน โฮลเป็นแบบออนไลน์ในปีนี้ เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดประชุมดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี หลังจากที่มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2525
ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็คสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ