ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.48% แตะที่ 93.2489 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.81 เยน จากระดับ 105.77 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9122 ฟรังก์ จากระดับ 0.9084 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3189 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3178 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1787 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1850 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3093 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3207 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7160 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7191 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยไอเอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากระดับ 50.3 ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 24.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2511 และเมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค.
ส่วนยูโรอ่อนค่าลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในยูโรโซน โดยไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน อยู่ที่ 51.6 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ค.