ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นในวันนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ ขานรับตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ณ เวลา 20.12 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.22% สู่ระดับ 106.17 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.28% สู่ระดับ 125.83 เยน และร่วงลง 0.47% สู่ระดับ 1.1850 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.35% สู่ระดับ 92.66
ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.5
ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว โดยขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
การดีดตัวของดัชนีภาคการผลิตในเดือนส.ค.ได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ผลสำรวจของ ISM สอดคล้องกับไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งได้เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 50.9 ในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.255 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.763 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.48 ล้านตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 4.791 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 10.2% โดยต่ำกว่าระดับ 11.1% ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.6%