ปอนด์ร่วงลงเทียบดอลลาร์และยูโร ท่ามกลางความกังวลที่ว่า อังกฤษอาจประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 00.19 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดิ่งลง 0.97% สู่ระดับ 1.279 ดอลลาร์ และอ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 0.918 เทียบยูโร
ประธานสภาสามัญชน ซึ่งเป็นสภาล่างของอังกฤษ กล่าวว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะกล่าวแถลงการณ์ต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่เขาได้ใช้เวลา 3 วันที่ผ่านมาในการหารือกับฝ่ายต่างๆเกี่ยวกับมาตรการในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
สื่อรายงานว่า นายจอห์นสันอาจประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดดังกล่าว
นอกจากนี้ นายจอห์นสันยังมีกำหนดเป็นประธานการประชุม COBRA ซึ่งเป็นการประชุมฉุกเฉินเพื่อรับมือโควิด-19 ในวันพรุ่งนี้
นายแพทริก แวลแลนซ์ ที่ปรึกษารัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า ขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุก 7 วัน ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะทำให้อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 50,000 รายต่อวันภายในกลางเดือนหน้า และจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 รายต่อวัน
ขณะนี้ อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 394,257 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 41,777 ราย
นอกจากนี้ ปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานข่าวของเว็บไซต์ของสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ระบุว่า ธนาคารหลายแห่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมโอนเงินที่ต้องสงสัย โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากเอกสารของเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐ (FinCen) ที่หลุดออกไปถึงสื่อของสหรัฐ และถูกแชร์เป็นวงกว้างโดย ICIJ
ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทั่วโลกได้ปล่อยให้มีการโยกย้ายเงินผิดกฎหมายจำนวนมากเป็นเวลานานเกือบ 20 ปี แม้จะมีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินดังกล่าวก็ตาม โดยเอกสารลับของ FinCen ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในระหว่างปี 2542-2560 ซึ่งเงินเหล่านี้ได้รับอนุมัติการทำธุรกรรมโดยหน่วยงานภายในของสถาบันการเงินที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย
ขณะเดียวกัน ปอนด์ยังถูกกระทบจากความกังวลที่ว่า อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) ขณะที่ EU แสดงความไม่พอใจต่อการที่อังกฤษให้การสนับสนุนร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาที่ขัดต่อข้อตกลง Brexit ที่อังกฤษทำไว้กับ EU ก่อนหน้านี้