ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในวันนี้ สวนทางตลาดหุ้นที่ร่วงลง โดยนักลงทุนพากันซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 23.44 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.43% สู่ระดับ 105.36 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.26% สู่ระดับ 123.14 เยน และร่วงลง 0.17% สู่ระดับ 1.1690 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.16% สู่ระดับ 94.14 หลังจากแตะระดับ 94.25 ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเขากล่าวว่า เฟดอาจเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่เฟดจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 2%
นอกจากนี้ นายอีแวนส์ยังกล่าวว่า การเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อาจจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 51.9 ในเดือนส.ค.
ดัชนี PMI ใกล้หลุดระดับ 50 ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะหดตัว โดยถูกกดดันจากภาคบริการ ขณะที่การจ้างงานชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต ยังเปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.4 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 54.6 ในเดือนส.ค.
มาร์กิตระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐลดความเชื่อมั่นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ในสภาคองเกรสวันนี้ หลังจากที่เขาได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายพาวเวลกล่าววานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ขณะที่เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ