ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่ซบเซา ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ 93.6040
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.01 เยน จากระดับ 106.03 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9171 ฟรังก์ จากระดับ 0.9172 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3199 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3267 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1758 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1765 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2933 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2910 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7163 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7140 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 840,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 825,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 849,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมระบุว่า การเจรจาของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยดี และมีการพูดคุยกันถึงการทำข้อตกลงที่มากกว่าการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน
อย่างไรก็ดี นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า ตนจะไม่ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายจากทำเนียบขาวที่ให้ความช่วยเหลือเป็นการเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการบิน หากรัฐบาลไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับรวมที่มีวงเงินสูง และครอบคลุมถึงการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19