ดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าจากการที่นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในวงเงินที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
ณ เวลา 22.12 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.35% สู่ระดับ 105.64 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.13% สู่ระดับ 124.81 เยน และดีดตัวขึ้น 0.49% สู่ระดับ 1.182 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.5% สู่ระดับ 93.14 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำเนียบขาว ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกัน เสนอวงเงินเพียง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนางเพโลซีต้องการให้ทำเนียบขาวออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับรวม ซึ่งครอบคลุมถึงการช่วยเหลือประชาชนและทุกภาคธุรกิจ รวมทั้งรัฐบาลในมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่เป็นการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมใดเป็นการเฉพาะ
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแยกออกเป็นฉบับย่อยหลายฉบับ เพื่อเยียวยาประชาชนและบางภาคธุรกิจเท่านั้น ขณะที่เขาไม่เห็นด้วยที่จะให้เงินสนับสนุนมลรัฐต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเขาอ้างว่ามีการบริหารงานที่ล้มเหลว
ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการต่างๆที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย